สนใจสอบถามติดต่อ  คุณมิ้ว, คุณแพรว Tel: 02-726-8891 ต่อ  107 , 104      

  กรุงเทพ ฯ – ท่าอากาศยานนานาชาติ เชียงราย – พ่อขุนเม็งราย  – โรงแรมเดอะรีเจนท์ เชียงราย – ถนนคนเดิน

  DAY1

0730            คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 เคาท์เตอร์ D (ดี)

0845               ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ  สู่ เชียงราย โดยสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบินที่ WE 130

                    ..มีอาหารว่างเสิร์ฟบนเครื่อง

1015               คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ เชียงราย

รถตู้ปรับอากาศ VIP จำนวน 2 คัน รอรับบริเวณสนามบิน

1130                ….จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ผ่านอนุเสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ตรงบริเวณห้าแยกพ่อขุนที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมถึงคนในจังหวัดเชียงรายล้วนเคารพนับถือ

1200               รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารสลุงคำ

                   “ดื่มด่ำ บรรยากาศ ไปกับอาหารไทย เมืองเหนือ รสเลิศ”

ร้านเก่าแก่คู่เมืองเชียงราย มีอาหารอร่อยสไตล์ล้านนา โดยบรรยากาศของร้านนอกจากจะมีส่วนในร่มที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม่ที่ให้อารมณ์ความขลังแล้ว ด้านนอกของร้านก็ยังมีที่นั่งกลางแจ้งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่ร่มรื่นบริการไวอีกด้วย เมนูแนะนํา แกงฮังเล รสชาติหอมหวานกลมกล่อม นํ้าพริกอ่อง นํ้าพริกหนุ่มหมํ่ากับแคบหมู หรือจะเมนูแหนมก็อร่อยไม่เป็นสองรองใคร

1300                .…จากนั้นเดินทางสู่ วัดมิ่งเมือง เป็นวัดที่ได้รับการบันทึกให้เป็นวัดเก่าแก่มีสำคัญทางประวัติศาสตร์วัดหนึ่งของเมืองเชียงราย ในครั้งที่พระเจ้าสามฝั่งแกนอัญเชิญพระแก้วมรกตจากเชียงรายไปยังเมืองเชียงใหม่ โดยอัญเชิญพระแก้วมรกตตั้งขบวนจากวัดพระแก้ว เชียงรายมาประดิษฐานบนหลังช้างทรงซึ่งหมอบรออยู่หน้าวัดมิ่งเมืองแล้วเคลื่อนขบวนออกจากประตูเมืองที่อยู่ติดกับวัดไปยังเมืองเชียงใหม่จึงทำให้ชาวบ้านเรียกว่า “วัดช้าง มูบ”ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

1330                จากนั้นให้ท่านแวะจิบชา กาแฟยามบ่าย ณ ร้าน MELT in YOUR MOUTH

หนึ่งในร้านกาแฟ ร้านขนม ที่มีชื่อเสียง อยู่ในอันดับต้น ๆ ของเมืองเชียงรายซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและคนเชียงรายเป็นอย่างดี

เปิดทุกวัน  08.30 – 20.30 น.

1400                นำท่านเดินทางสู่ โรงแรมเดอะรีเจนท์ ให้ท่านได้พักผ่อนกับบรรยากาศริมแม่น้ำกกที่ ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยความงามของวิวทิวทัศน์ที่เกิดจากพืชนานาพันธุ์

1700                พร้อมกัน ณ บริเวณล็อบบี้โรงแรม

1800                รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารลีลาวดี  ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำกก เชียงราย บรรยากาศดี อาหารอร่อย

หลังอาหารเดินทางสู่ ถนนคนเดิน เชียงราย หรือ กาดเชียงฮายรำลึก เต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้าน ของพื้นเมือง ของที่ระลึกวางขายมากมายยาวเหยียด และไฮไลท์ของที่นี่ไม่เหมือนใคร คือ จะมีลานไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวมาเต้นรำวงกัน ซึ่งเราจะเห็นคนเฒ่า คนแก่ มาเต้น ดูแล้วชวนให้นึกถึงวันวานเสียจริง (เปิดตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 24.00น เฉพาะวันเสาร์)

https://youtu.be/IbnXsnS8RLE

ห้องพักดีลักส์ สตูดิโอ พร้อมกับบ่ออาบน้ำจากุซซีนอกห้อง พร้อมวิวส่วนหย่อมและต้นไม้นานาพันธุ์ ตกแต่งแบบร่วมสมัยสไตล์ล้านนา ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เช่น ตู้เซฟ อุปกรณ์ในการทำชา และกาแฟ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ทในห้องพัก เครื่องเล่นซีดี และดีวีดี โทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียม มินิบาร์ ไดร์เป่าผม และเตียงสำหรับเด็ก

ห้องพักแกรนด์ ดีลักส์ สตูดิโอ  เป็นอาคารหลังชั้นเดียว ขนาดห้องกว้าง 63 ตารางวา มีจากุซซีส่วนตัวภายในห้อง แยกตัวออกจากแม่น้ำกก พร้อมเพลิดพลินไปกับวิวสวนหย่อมอันเขียวขจี และสระน้ำอันใสสะอาดน่าผ่อนคลาย มีการตกแต่งแบบร่วมสมัยสไตล์ล้านนา ในห้องพักประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เช่น ตู้เซฟ อุปกรณ์ในการทำชา และกาแฟ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ทภายในห้องพัก เครื่องเล่นซีดี และดีวีดี โทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียม มินิบาร์ ไดร์เป่าผม และเตียงสำหรับเด็ก

DAY2

วันอาทิตย์ที่  15  มกราคม  2560   (2)                พระตำหนักดอยตุง – สวนแม่ฟ้าหลวง – วัดพระธาตุดอยตุง –  ไร่ชาฉุยฟง – พิพิธภัณฑ์บ้านดำ – ร้านชีวิตธรรมดา – ไนท์บาร์ซ่า

0800               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

0900                หลังอาหารเช้านำท่านออกเดินทางสู่ดอยตุง โดยรถตู้ปรับอากาศ

1030                เดินทางถึง ดอยตุง หรือ พระตำหนักดอยตุง ก่อตั้งขึ้นจากพระราชดำริของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าของเรา โดยมีพระราชกระแสรับสั่งว่า หลังพระชนมายุ 90 พรรษา จะไม่เสด็จไปประทับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีก สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์จึงได้เลือกดอยตุง ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม ประกอบกับพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยกับดอยตุงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมีพระราชดำริจะสร้างบ้านที่ดอยตุง ไฮไลท์สำคัญในการมาเที่ยวดอยตุง นั่นก็คือการเก็บภาพความประทับใจกับทุ่งดอกไม้สีสันสดใส นั่นคือ สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวในหุบเขา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 เดิมมีพื้นที่ 12 ไร่ มีการปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับ ให้ออกดอกไม่ซ้ำกันตลอดสามฤดู ล้อมรอบประติมากรรมชื่อ “ความต่อเนื่อง” เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวที่กลางสวน นอกจากนี้ ยังจัดแต่งสวนหินซึ่งประดับด้วยหินภูเขากลมเกลี้ยงขนาดใหญ่ สวนน้ำอุดมด้วยไม้น้ำพันธุ์ต่างๆ บัว และสวนปาล์มที่รวบ รวมปาล์มไว้มากมายในพื้นที่ 13 ไร่ สวนแม่ฟ้าหลวงจึงมีพื้นที่ทั้งสิ้น 25 ไร่

https://youtu.be/Q-cXCs1ytBg

                        วัดพระมหาชินธาตุเจ้า หรือ วัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา เนื่องจากพระธาตุดอยตุงตั้งอยู่สูงกว่าระดับน่ำทะเลประมาณสองพันเมตร เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือกระดูกไหปลาร้าซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย ดังมีตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อ 1,000 กว่าปีล่วงมาแล้ว ประมาณ พ.ศ. 1454 พระมหากัสสปะเถระพร้อมด้วยพระเข้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธ์ ร่วมกับข้าราชบริพารได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตไว้ ณ ดอยแห่งนี้ และได้ปักตุงหรือธงบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นตุงตะขาบมีความยาวถึงพันวาปักไว้บนยอดดอยปล่อยชายตุงปลิวสะบัดถึงที่ใดให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ดอยนี้จึงได้ชื่อว่าดอยตุงมาจนถึงปัจจุบันนี้ พระธาตุดอยตุงเป็นปฐมเจดีย์แห่งล้านนา ตุง คือศรีเมือง ขวัญเมือง และเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา สถิตคู่พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้บูรณะ

——-กลางวัน          รับประทานอาหารเที่ยง ณ ครัวตำหนักดอยตุง

ครัวตำหนัก ตั้งอยู่บริเวณศูนย์ท่องเที่ยวและบริการพระตำหนักดอยตุง ลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ มากมาย

อาทิ ผัดยอดมะเขือ, ต้มยำไก่, ผัดผักรวมมิตร, น้ำพริกชนิดต่างๆ (ภาคเหนือ), ข้าวซอย ที่นอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารแล้วยังอิ่มตาไปกับบรรยากาศสวย ๆ ท่ามกลางขุนเขาและสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ มีความสวยงามจนเปรียบว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย เรื่องของอาหารนั้นทางครัวตำหนักเน้นการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ปลอดสารพิษจากโครงการหลวง นำมาประกอบอาหาร ทำให้ได้วัตถุดิบที่สดใหม่และปลอดภัย ทั้งยังได้เชฟที่ช่ำช่องในการทำอาหารมาถึง 27 ปี ที่อยู่คู่กับพระตำหนักดอยตุงเป็นผู้บรรจงปรุงแต่งอาหารที่อร่อยและรักษาสุขภาพ

1600               เดินทางผ่านพิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาคารสถาปัตยกรรมแห่งนี้เป็นแบบกาแล ภายในเน้นจัดแสดงผลงานศิลปะลํ้าค่า สร้างขึ้นมา มากกว่า 40 ปี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เจนเนอเรชั่น คือเป็นเจเนอเรชั่นไม้

                        ก่อนกลับเข้าที่พัก แนะนำ ร้านชีวิตธรรมดา…ว่ากันว่าใครมาเชียงรายต้องขอมาลองนั่งร้านนี้ ร้านชีวิตธรรมดาตั้งอยู่ตรงริมแม่น้ำกก การตกแต่งร้านและสวนจะเป็นสไตล์อังกฤษ

ออกเดินทางสู่โรงแรม Le Meridien Chiangrai โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บนพื้นที่ 26 ไร่ ริมแม่น้ำกกอันเงียบสงบ แวดล้อมด้วยภูมิประเทศแนวเขาสูงอันงดงาม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายเพียงอึดใจเดียว นอกจากคุณจะประทับใจกับการบริการและการพักผ่อนเหนือระดับแล้ว ยังเพลิดเพลินกับความสวยงามในการจัดภูมิทัศน์ของสวนสวยเขียวขจี และทะเลสาบอันเงียบสงบ ร่มเงาด้วยต้นจามจุรีคู่อายุกว่า 100 ปี และยังรายล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่รอให้คุณเข้าไปสัมผัส

            ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย…จากนั้นรถตู้มารอรับบริเวณล็อบบี้

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ร้านหลู้ลำ ร้านอาหารใหญ่ริมแม่น้ำ ที่อาหารเกือบทุกอย่างอร่อยจนต้องร้องครวญครางในคำแรก

18.30 น. – 23.00 น. หลังอาหารนำท่านสู่ บาร์ตลาดไนท์ซ่าตั้งอยู่บริเวณสถานีขนส่ง (เก่า) ถ้าอยากหาสินค้าพื้นบ้าน สินค้าทำ

มือ สินค้าหัตถกรรมสวยต้องไม่พลาดที่นี่ นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านอาหาร เวทีการแสดง รำไทย

และสะล้อ ซอ ซึง ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้าน เป็นการ อนุรักษ์ศิลปะแบบล้านนาเอาไว้ด้วย เปิดทุกวัน

DAY3 

0800               บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

0900                พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้โรงแรม..รถตู้รอรับบริเวณล็อบบี้โรงแรม จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ อำเภอแม่สาย

1030                เดินทางถึงพระธาตุผาเงา วัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา”

จากนั้นออกเดินทางต่อสู่สามเหลี่ยมทองคำ ให้ท่านได้ไหว้พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ ประดิษฐานกลางแจ้ง ณ สามเหลี่ยมทองคำ พระพุทธนวล้านตื้น องค์นี้เป็นพระเชียงแสนสี่แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง และสร้างขึ้น ด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดทองด้วยบุศราคัม น้ำหนักถึง 69 ตัน หน้าตักกว้าง 9.99 ม.สูง 15.99 ม. ประทับนั่งบน “เรือแก้วกุศลธรรม” ขนาดใหญ่

หรือเลือกทำกิจกรรมบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อาทิ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง หรือ ช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึก

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

ครัวสุโขทัย เป็นสาขาที่สองของร้านก๋วยเตี๋ยวครัวสุโขทัย สาขาสายลมจอย ใต้สะพานข้ามพรมแดนไทย-พม่า เป็นที่รู้จักของชาวอำเภอแม่สาย และอำเภอใกล้เคียงรวมถึงแขกนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้าแวะเวียนลองชิม “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสูตรโบราณและขนมถ้วยสูตรโบราณ”” กับวิวภูเขาสลับซับซ้อนราวกับทานอาหารอยู่ในหุบเขา

จากนั้นออกเดินทางสู่ แม่สายพลาซ่า จังหวัดเชียงราย ตลาดที่ใคร ๆ ก็ให้ความสนใจอยากจะมาช็อปสินค้ากันที่นี่เป็นอันดับต้นๆ เนื่องด้วยตลาดแม่สายแม่สินค้าจากหลากหลายสถานที่ โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีนที่นำมาขายที่นี่ ถือว่ามีราคาถูกมากแทบไม่น่าเชื่อ ตลาดแม่สายจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ก็คือ ตลาดแม่สายฝั่งไทย กับตลาดฝั่งท่าขี้เหล็ก ชายแดนประเทศพม่า

จากนั้นมุ่งหน้ากลับสู่เมืองเชียงราย เดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก…อิสระพักผ่อนภายในโรงแรมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ท่ามกลางธรรมชาติ ริมแม่น้ำกก

ค่ำ                    รับประทานค่ำร้านข้าวต้มมีนา ร้านข้าวต้มชื่อดัง อีกร้านหนึ่งที่ว่ากันว่ามาเชียงรายต้องมาลอง

พักที่ โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย

 DAY4

วันอังคารที่  17  มกราคม  2560   (4)                วัดร่องขุน – สิงห์ปาร์ค – สนามบิน

0800               บริการอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ ชาร์จโอโซนให้ร่างกาย ความสุขสนุก เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำ,ฟิตเนส สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงแรม

0930                …พบกันบริเวณ ล๊อบบี้โรงแรม พร้อมเช็คเอ้าท์ เพื่อเดินทางสู่วัดร่องขุน

1000                เดินทางถึง วัดร่องขุน อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องไปเมื่อไปเยือนเมื่อไปถึงจังหวัดเชียงราย สำหรับ “วัดร่องขุ่น” วัดที่ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรเรืองนาม ที่อุทิศตนสร้างวัดอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ

ให้ท่านชม หรือทำกิจกรรม ณ สิงห์ปาร์ค หรือไร่บุญรอด เป็นไร่ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงเกษตรแห่งใหม่ ภายในไร่บุญรอดนอกจากจะมีแปลงปลูกข้าวบาร์เลต์ของเบียร์สิงห์ซึ่งอยู่ด้านหน้าแล้ว ยังมีพื้นที่เกษตรกรรม และไร่ชากว่า 600 ไร่  โดยการท่องเที่ยวฟาร์มทัวร์ภายในบุญรอดต้องใช้บริการรถราง (shutter bus) ซึ่งทางไร่ได้จัดเตรียมไว้โดยรถจะออกทุก 15 นาที คิดราคาคนละ 50 บาท จุดแวะมีทั้งหมด 4 จุด จุดแรกคือทุ่งดอกคอสมอส จุดที่ 2 คือ ให้อาหารยีราฟและม้าลาย จุดที่ 3 คือ ศูนย์กีฬาและสันทนาการ หรือบ้านแดง จุดนี้เป็นจุดเช่าจักรยานและกิจกรรม zip line และจุดที่ 4 คือ จุดชมวิวไร่ชา 360 และร้านอาหารภูภิรมย์

1430                ..สมควรแก่เวลานำท่าน ออกเดินทางสู่สนามบิน

1520               เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงราย

1655             เหินฟ้ากลับกรุงเทพ  โดยสายการบินไทยสมายล์  เที่ยวบินที่ WE 135

1815            ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  กรุงเทพฯ   โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม